iPad Pro with accessories Cr:Apple.com
พระเอกของค่ำคืนนี้! iPad Pro เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เพราะได้รับการอัพเกรดชิปเป็น M1 (แบบเดียวกับ iMac Macbook Air Macbook Pro) ทำให้วันนี้สามารถพูดได้ว่าไอแพดโปร มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากแมคอย่างเต็มภาคภูมิ มาพร้อม 2 ขนาดให้เลือกคือ 12.9″ กับ 11″
และที่จะทำให้ดูเหนือกว่าใครๆก็เพราะจอภาพแบบ XDR Liquid Retina (เฉพาะ iPad Pro 12.9 นิ้ว) ที่ทำให้ภาพจากหน้าจอสมจริงสุดๆ ด้วยการใช้ Mini-LED ดวงน้อยๆกว่าหมื่นดวงค่อยๆจัดเรียงจนได้ความสว่างที่ชัดเจนที่สุด เทียบความสว่างทั้งสองขนาด 12.9″จะได้ 1600 นิต (HDR) กับ 11″ จะอยู่ที่ 600 นิต แต่เป็น Liquid Retina ที่ให้สีที่สบายตา(และน้ำหนักที่ถือสบายมือกว่า) เรียกว่าแตกต่างจากรุ่นเดิมที่เป็น IPS LCD มหาศาล
เรื่องของการส่งข้อมูลมีมาให้เลือกทั้งแบบ Wi-Fi และ cellular อย่างที่คุ้นเคย แต่ที่เหนือกว่าเดิมมากคือความเร็วของการรับส่งข้อมูลที่รองรับ Wi-Fi 6 และ 5G เรียบร้อยแล้ว เรียกว่าซื้อเผื่ออนาคต(ในไทย)กันไปอีกหลายปีเลย
ที่น่าสนใจมากในยุคการเรียนและการทำงานแบบออนไลน์คือกล้องหน้า ที่ได้เพิ่มประสิทธิภาพเป็น 12MP (เดิม 7MP) กว้าง 122 องศา พร้อมการแพนกล้องให้หน้าเราอยู่ตรงกลางจออัตโนมัติ (กล้องหน้าขยับตามเรา) เจ๋ง
อยากจะพูดถึงมากๆคือกล้องหลังถ้าไม่ได้อ่านบทความนี้จะคิดว่าสเปกคงเดิมคือ กล้องไวด์(ถ่ายมุมกว้าง) 12MP กล้องอัลตร้าไวด์(ถ่ายมุมกว้างพิเศษ) 10MP แต่ที่จะทำให้พิเศษขึ้นคือการทำงานร่วมกับชิป M1 ที่มีประสิทธิภาพล้น ชิปนี้จะทำงานร่วมกับกล้องทำให้ได้ภาพที่กลั่นออกมาอย่างดีด้วยความอัจฉริยะ
iPad Pro ใหม่กำลังพลิกวงการ AR ด้วย LiDAR สแกน (กล้องตัวเล็กๆที่เหมือนเป็นกล้องที่ 3) ต้องยอมรับว่าการนำ M1 มาใช้ส่งผลต่อการทำงานเรื่องนี้มาก ทำให้โลกของ AR มีความลึกขึ้น และถูกนำมาใช้ได้จริงมากขึ้น ในวิดีโอเปิดตัวมีการนำ AR มาใช้ร่วมกับการอัดวิดีโอด้วยแอป Clips ด้วย ผมว่าเรื่องนี้เหล่าครีเอเตอร์ต้องมีการนำมาใช้กันเยอะอย่างแน่นอน
ถ้าจะพูดว่า iPad Pro เป็นเครื่องที่สามารถแทนแมคได้แล้ว เราก็ต้องคิดว่าแล้วจะต่อออกจอขยายได้หรือไม่ เรื่องนี้เป็นอะไรที่โดนใจมาก เพราะ iPad Pro มาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt (ใช้งานร่วมกับช่องชาร์จ USB-C ) แล้วทำให้สามารถต่อจอแยกที่ความละเอียดถึง 6K ได้! รวมถึงทำให้สามารถโอนข้อมูลกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกอื่นๆได้เร็วแบบสุดจัดอีกด้วย เอามาแต่งภาพ ตัดต่อได้จริงจังแบบนี้
ยังไม่ได้เอ่ยถึงความยอดเยี่ยมเดิมที่ไอแพดโปรมีนะครับ เช่น ลำโพง 4 ตัวที่รองรับ Dolby Atmos ไมโครโฟนอีก 5 ตัว เรียกว่าพร้อมจะทำเพลง หรือ Live Stream ได้สบายๆ
เปรียบเทียบคีย์บอร์ดสำหรับไอแพด Cr:Apple.com
พอเป็นไอแพดก็ต้องพูดถึงอุปกรณ์เสริม รอบนี้มาพร้อมเมจิกคีย์บอร์ดแบบแทร็คแพดในตัว มีสีดำกับขาว ยึดด้วยแม่เหล็กแค่แปะก็ติด พร้อมยกตัวเครื่องให้ลอยจากโต๊ะแล้วปรับมุมตามต้องการ ส่วนตัวผมว่านี่คือไอแมคขนาดย่อส่วนที่พร้อมจิ้มจอด้วย Apple Pencil ที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
มาพร้อมตัวเลือก 128GB 256GB 512GB 1TB และสูงสุด 2TB (สองพันกิ๊ก) โดยอ้างอิงราคาจาก Apple.com ดังนี้
iPad Pro 11″ จอ Liquid Retina
Wi-Fi 128GB 27,900 บาท Wi-Fi+Cellular 32,900 บาท
Wi-Fi 256GB 31,400 บาท Wi-Fi+Cellular 36,400 บาท
Wi-Fi 512GB 38,400 บาท Wi-Fi+Cellular 43,400 บาท
Wi-Fi 1TB 52,400 บาท Wi-Fi+Cellular 57,400 บาท
Wi-Fi 2TB 66,400 บาท Wi-Fi+Cellular 71,400 บาท
iPad Pro 12.9″ จอ Liquid Retina XDR (เพิ่ม 10,000 บาทจากรุ่น 11″ ในทุกความจุ)
Wi-Fi 128GB 37,900 บาท Wi-Fi+Cellular 42,900 บาท
Wi-Fi 256GB 41,400 บาท Wi-Fi+Cellular 46,400 บาท
Wi-Fi 512GB 48,400 บาท Wi-Fi+Cellular 53,400 บาท
Wi-Fi 1TB 62,400 บาท Wi-Fi+Cellular 67,400 บาท
Wi-Fi 2TB 76,400 บาท Wi-Fi+Cellular 81,400 บาท
สรุปส่วนตัวผม iPad Pro ใหม่นี้ ถือเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การนำ M1 มาใส่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของไอแพดพัฒนาขึ้นอย่างไม่จำกัด รวมถึงความแข็งแกร่งของ App Store ที่มีแอปให้เลือกกว่าล้านแอป ทำให้ไอแพดโปร กลายเป็นอุปกรณ์ในฝันที่พร้อมมาตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ สายวาด นักเรียน นักศึกษา สถาปนิก วิศวะ คุณครู อาจารย์ คุณหมอ ทุกสาขาอาชีพอย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.apple.com/th/apple-events/april-2021/
หากข้อมูลนี้มีประโยชน์กับท่าน โปรดติดตาม www.chatjayn.com และเพจ FB@digitalx21 เพื่อให้ไม่พลาดข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นกำลังใจให้เราผลิตผลงานดีๆต่อไปด้วยนะครับ ขอบคุณครับ